วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

การกรอกPINเพื่อรับเงินจาก Google Adsense

การกรอก PIN (PIN ทางgoogle จะส่งมาให้กับเราทาง Mail ที่เราสมัครบันชีกับทาง Google Adsense ไว้เมื่อยอดเงินในบัญชีของเรา ได้ประมาณ 50 $ )

- ให้ Login เข้า Google AdSense เมือล็อกอินเรียบร้อยแล้วจะเห็นข้อความ You payments are currently on hold. Action is required to release payment Click here for details ให้เลือกคลิกที่ Click here for details

- ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN

- ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PIN เสร็จสิ้นขั้นตอนการยืนยันการมีตัวตนเพื่อรับเงินครับ

- จากนั้นเมื่อเราทำยอดถึง 100$ ทาง Google จะส่งเช็คมาให้รอสัก 1-3 สัปดาห์มาถึงเราให้คุณนำเช็คนั้น ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ถ้าคุณเลือกรับเงินเป็น Thai Baht คุณจะได้รับเช็คเร็วมากประมาณวันที่ 7 ก็จะได้รับเช็คครับ เช็คที่ส่งมาให้จะออกโดย ซิตี้แบงค์ ครับ

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

5 อย่างที่รเาควรทราบมือทำงานหรือธุรกิจออนไลน์ รู้ไว้ก่อนโดนหลอก



       5 ข้อสังเกตุ ในการหาเงินออนไลน์ รู้ไว้ก่อนโดนหลอกแหล่งสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็จ มีให้เลือกหลากหลายวิธี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัด หรือความชอบ ของแต่ละท่านว่าต้องการเลือกวิธีการสร้างรายได้อย่างไร ซึ่งมีทั้งระะบบขึ้นมาใหม่เป็นของตัวเอง หรือใช้บริการที่มีอยู่แล้ว เชาน ห้างสรรพสินค้าออนไลน์, ตลาดกลางออนไลน์, โฆษณาออนไลน์, เขียนบทความออนไลน์ หรือ Blog เป็นต้น แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกบริการของใคร เราต้องมั่นใจก่อนว่าเราไม่ถูกหลอก เว็บนั้นๆ เชื่อถือได้หรือไม่ ในสังคมโลกไซเบอร์ เป็นสังคมที่สื่อสารกันผ่านข้อความดิจิตอล หรือ เสียง แต่ไม่เห็นหน้าเห็นตากัน จึงทำให้เราอาจจะถูกผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายหลอกลวงเอาได้ ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะผู้ซื่อหรือผู้ขาย...


        ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะผู้ซื่อหรือผู้ขาย เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่าเว็บไซต์ หรือแหล่งข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือได้ และน่าสนใจที่จะร่วมงาน หรือลงทุนด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่าเว็บไหนเชื่อถือได้หรือไม่ ขอแนะนำวิธีง่ายๆ 5 วิธี ที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองครับ


1. คุณลักษณะของเว็บไซต์ (Identity)

        ก่อนอื่นเลยเราต้องดูคุณลักษณะของเว็บไซต์ว่าเป็นเว็บที่ให้บริการอะไร มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร เนื้อหาเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือความต้องการของเราหรือไม่ เนื้อหาเหล่านั้นสุ่มเสี่ยงหรือมีเนื้อหาอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่ ที่มักจะพบบ่อยๆ ก็เป็นการแทรกโฆษณาขายภาพโป๊ หรือคลิปโป๊ และการออกแบบเว็บไซต์ดูน่าสนใจดึงดูดให้มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมหรือไม่

2. ชื่อเสียงของเว็บไซต์ (Reputation)

        อีกแนวทางหนึ่งที่เราจะได้รู้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่ ก็คือชื่อเสียงของเว็บไซต์ว่าอยู่ในแดนบวกหรือลบจากผู้ที่เคยมาเยี่ยยชม หรือใช้งานเว็บไซต์นั้นๆมาก่อน โดยสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเว็บไซต์นั้นๆได้ ผ่านพวก Search Engine เช่น Google, Yahoo เป็นต้น หรือศึกษาดูข้อมูล จากกระทู้ หรือ Web Board ต่างๆเช่น Pantip, Sanook หรือ Web Board ของเว็บไซต์นั้นๆ โดยตรง แล้ววิเคราะห์ดูว่าส่วนใหญ่เขากล่าวถึงเว็บไซต์นั้นๆอย่างไร เพราะข้อมูลต่างๆ ที่โพสต์ไว้บนอินเทอร์เน็ตมีทั้งที่เป็นความจริง และมีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตีใส่ร้ายคนอื่น เราต้องวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน หรือลองดูรายชื่อเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเป็นอันตรายหรือเป้นอันตรายจากเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ขึ้นบัญชีดำ หรือ Blacklist

3. ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ (Creditability)

        ความน่าเชื่อถือ (Creditability) คือสิ่งหรือเร่ืองที่เชื่อถือได้ ข้อมูลสารสนเทศเหล่านั้นเชื่อได้ ก็คือ มีความน่าเชื่อถือ เราสามารถที่จะเชื่อได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นจะประเมินว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพหรือไม่ จะพิจารณาในประเด็นต่างๆ ดังนี้

- ออกแบบเว็บไซต์แสดงเอกลักษณ์ของธุรกิจ และมีความเป็นหนึ่งเดียว ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ และสินค้าหรือบริการ มีข้อมูลสถานที่และบุคคลที่จะติดต่อได้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้
- ออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้ไม่เกิน 3 คลิก ไม่สร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งาน ไม่ต้องเรียนรู้การใช้งานใหม่ทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์
- ออกแบบให้สวยงาม ดูดี มีรสนิยม และโหลดเร็ว
- ไม่มีป้ายโฆษณามากเกินไป และวางในตำแหน่งที่เหมาะสม เพราะการมีป่ายโฆษณาที่เป็น Pop-up จะน่ารำคาญสำหรับผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้ไม่อยากเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกในภายหลัง
- ทุกลิงก์ (Link) สามารถใช้งานได้ ต้องไม่มีลิงก์ใดที่คลิกแล้วไม่พบข้อมูล หรือ ขึ้นว่า Under Construction
- ใช้คำพูดที่สุภาพและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
- จัดเรียงข้อความสวยงาม จัดช่องไฟอย่างเหมาะสม และไม่มีคำสะกดผิด
- เอาใจใส่ต่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ มี Web board หรือบริการเสริมอื่นๆ เช่น ระบบสมาชิก, ระบบเมล์ ไว้บริการ

4. มีเครื่องหมายใดๆรับประกันหรือไม่ (Quality Guarantee)

        นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลแล้ว นอกจากนี้อีกสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้ ก็คือเว็บไซต์นั้นๆ ได้รับการรับรองคุณภาพ หรือ Guarantee จากองค์กรหรือหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ หรือระดับสากลหรือไม่ เช่น เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (Trustmark), การรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด (Verified by VISA and MasterCard SecureCode) หรือ มีระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล SSL (Secure Socket Layer) สังเกตุโปรโตคอลที่ใช้จะเป้น https://เป็นต้น


5. เว็บไซต์หลอกหลวง (Phishing SCAM Website)

        อันุสดท้ายน่ะครับ คือ Phishing อ่านว่า ฟิชชิ่ง เปรียบได้กับการเอาเหยื่อมาล่อให้ปลาติดกับพวก Phishing Website ก็เช่นกัน เป้นการสร้างเว็บปลอมหรือปลอมแปลงอีเมล์ เพื่อหลอกลวงให้เหยือหรือผู้รับอีเมล์เปิดเผยข้อมูลความลับส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต, รหัสผ่าน (Password), เลขที่บัตรประชาชน เป็นต้น โดยจะทำการคัดลอกสัญลักษณ์ เครื่องหมาย และรูปแบบเว็บของธนาคาร สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง และสถาบันให้บริการบัตรเครดิตดังนั้นเราจะต้องพิจารณาให้ดี อาจจะดูจาก URL บน Address bar ซึ่งพวก Phishing จะตั้งชื่อ Domain name คล้ายๆกับเจ้าของจริง เช่น http://www.aol.com เปลี่ยนจาก l เป็น 1 หรือมีอีเมล์มาแจ้งเกี่ยวกับบัญชีของเราว่าหมดอายุหรือมีัญหาใดๆ ควรตรวจสอบกับธนาคารโดยตรง อย่าหลงเชื่อตอบกลับหรือให้ข้อมูลใดๆ ผ่านทางระบบออนไลน์


วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

วิธีการสร้างบล็อก 2014

  
       



        

       ก่อนอื่นในการที่เราจะสร้างรายได้เราต้องมีพื้นที่ของเราเองเพื่อที่จะติดโฆษณาของทาง 
 Google AdSense ในพื้นที่ของเรา การสร้างพื้นที่บนโลกอินเทอร์เน็ตมีอยุ่มากมายหลายวิธี แต่วันนี้เราจะมาสร้างพื้นที่ของเราให้เกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยวิธีที่ง่ายและง่ายมาก ก็คือ การสร้างบล๊อกบน Google หรือที่เรียกกันว่า Blogger นั่นเอง ซึ่งเปรียบเสมือน ช่องๆหนึ่งที่เราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเรื่องราว การแชร์ประสบการณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งนำเสนองาน หรือผลิตภัณฑ์ของท่านให้คนอื่นๆในโลกอิเทอร์เน็ตได้รับรู้ แต่ต้องอยู่ถายใต้ของเขตสัญญาที่เราทำกับ Google ด้วยนะครับ วันนี้เราจะมาสร้างบล๊อกของเรากัน



สิ่งที่ต้องมีสำหรับสร้าง Blogger คือ Gmail

หากยังไม่มี Gmail สมัครคลิกที่นี้



VDO การสร้าง Blogger




             หลังจากที่เรามำการสร้างบล็อกเสร็จแล้วครับ เรายังสามารถสร้างรายได้จากบล็อกของเราได้อีดด้วยครับ โดยการนำโฆษณามาติดลงไปในบล๊อกของเราครับ ซึ่งมีหลายเว็บที่ทำกันไปแล้ว บล็อกก็สามารถทำได้เหมือนกันครับ โดยกลักการทำและวิธีอยู่ที่แถบเมนูของบล็อกจะมีให้ผู้ที่สนใจสร้างรายได้จาก บล็อกได้ทำกันครับ  ซึ่งในที่นี้จะแนะนำอยู่ 2 เว็บที่เขาเป็นเว็บสำหรับให้โฆษณากับเรามาติดครับ คือ Google Adsene ครับ ซึ่งเป็นบริการของทางเว็บชันนำอย่าง Google ให้เรามาใช้กันครับ และส่วนอีกเว็ปหนึ่งคือ Yengo ก็สามารถนำมาติดแล้วได้ตังเหมือนกันครับ ซึ่งของทาง yengo จะสามารถมฃสมัครรับโฆษณามาลงได้ง่ายกว่าทาง Google ครับ ได้รับรองได้เลยครับ ว่าทั้งสองเว็บที่นำมาให้นั้น จ่ายจริงแน่นนอนครับ 


วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สร้างรายได้ง่ายๆกับ Google.com

     
         สร้างรายได้ง่ายๆกับ Google.com โดยใช้บริการของ Google AdSense ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่มีมานานแล้ว ที่ทุกท่านสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้กันอย่างฟรีๆ เพียงแค่มี G-mail ของทาง Google.com โดยรายได้ในส่วนนี้จะเกิดการการนำโฆษณาต่างๆ ของ Google AdSense ไปติดไว้ตามหน้าเว็บ บล๊อกต่างๆ รวมไปถึง การติดโฆษณาลงบนวิดีโอของคุณใน Youtube ก็เป็นอีกทางในการสร้างรายได้จากบริการของ Google AdSense เพื่อเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งรายได้ที่เราจะได้จากทาง Google นั้น จะได้จากการดูหน้าเว็ปและการคลิ๊กเข้าชมโฆษณาที่ติดอยู่บนเว็บของท่าน ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้เข้าชม นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้ทางอิเทอร์เน็ตที่ได้ผลจริงๆ ภายได้แบรนด์ของ Google ซึ่งปัจจุปันก็มีคนที่สนใจและเข้ามาทำธุรกิจกับ  Google AdSense เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเว็บนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับคนที่สนใจอยากจะทำธุรกิจกับ   Google AdSense ได้ทำการเรียนรู้และช่วยท่านสร้างรายได้กับบริการต่างๆของ Google ให้ประสบความสำเร็จกันแบบฟรีๆ

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สร้างรายได้จาก Google AdSense

สร้างรายได้จาก Google AdSense
      
       หลังจากที่เราไดสร้าง Blogger เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราหมั่นสร้างบทความในบล็อกเขาเราลงก่อนเป็นประจำ ทุกวันประมาณวันละ 1-2 ครัง แล้วเมื่อบทความของบล๊อกของเราเกิน 15 บทความ แล้วค่อยทำการเชื่อมต่อบัญชีของบล๊อกเรา เข้ากับ Google AdSense โดยเราสามารถสมัครบัญชี Google AdSense ผ่านทางบล๊อกของเราได้เลย


การเชื่อมต่อบัญชีของ Blogger กับ Google AdSense
โดยมองแถบเมนูด้านซ้ายมือของเรา คลิกที่ รายได้ ดังรูป





      จากนั้นจะแสดงหน้าต่างใหม่ขึ้นมา ให้เราทำการลงทะเบียนกับ Google AdSense เพื่อเชื่อมต่อกับบล๊อกของเรา ดังรูป


       ให้เรากรอกขอมูลตามความเป็นจริง เพราะเวลารับเงินจากระบบของ Google AdSense จะไม่เกิดปัญหา ซึ่งหลักจากส่งใบสมัครแล้ว ทางระบบจะทำการตรวจสอบใบสมัครและคุณสมบัติของบล๊อกเรา ใช้เวลาประมาณ1-7 วัน หากผ่าน เราก็จะสามารถนำโฆษณาของทาง Google AdSense มาติดบนหน้า บล๊อกของเราได้ เมื่อมีคนเข้ามาชมเว็บ หรือ คลิกโฆษณาบนเว็บหรือบล๊อกเราก็จะได้ส่วนแบ่งจากการโฆษณานั้น จากทาง Google AdSense เป็นคนจ่ายให้เรา รับรองว่าจ่ายจริงแน่นอน



ในกรณีที่ใบสมัครที่เรายื่นไป ไม่ผ่าน เราจะทำอย่างไรดี ?

หากไม่ผ่านให้ให้เราทำการแก้ไข หรือปรับปรุงคุณสมบัติของบล๊อกเรา แล้วทำการส่งใบสมัครอีกครั้ง ส่งไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับอนุมัติบัญชี ต้องใช้ความพยายามหน่อยครับในส่วนของขั้นตอนนี้


VDO การสมัครสมาชิกกับ Google Adsense








การตรวจเช็คและรับเงินจากทาง Google adsese


        หลังจากที่เรา Login เข้าสู่ระบบ Google AdSense จะเห็นยอดเงินประจำวันของคุณ
Today's Earnings : $99999999.00 คุณสามารถเลือกดูได้จากยอด View ว่าวันนี้คุณได้เท่าไหร่ เมื่อว่านนี้ ได้เท่าไหร่ สัปดาห์ล่าสุดได้เท่าไหร่ เดือนนี้ได้เท่าไหร่ รวมทั้งหมดได้เท่าไหร่
ซึ่งทาง Google จะจ่ายเงินให้คุณก็ต่อเมื่อคุณมีรายได้ครบ 100$ เมื่อคุณมีรายได้ขึ้นไป 50$ ทาง Google จะส่ง PIN มาให้คุณ ทางจดหมาย ตามที่อยู่ที่ได้สมัครกับทาง Google adsene ไว้ ดังนั้นให้ตรวจเช็คที่อยู่ของคุณให้ถูกต้อง ระยะเวลาในการจัดส่งอยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์



วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การตรวจเช็คและรับเงินจากทาง Google adsese

การตรวจเช็คและรับเงินจากทาง Google adsese


หลังจากที่เรา Login เข้าสู่ระบบ Google AdSense จะเห็นยอดเงินประจำวันของคุณ

Today's Earnings : $99999999.00 คุณสามารถเลือกดูได้จากยอด View ว่าวันนี้คุณได้เท่าไหร่ เมื่อว่านนี้ ได้เท่าไหร่ สัปดาห์ล่าสุดได้เท่าไหร่ เดือนนี้ได้เท่าไหร่ รวมทั้งหมดได้เท่าไหร่
ซึ่งทาง Google จะจ่ายเงินให้คุณก็ต่อเมื่อคุณมีรายได้ครบ 100$ เมื่อคุณมีรายได้ขึ้นไป 50$ ทาง Google จะส่ง PIN มาให้คุณ ทางจดหมาย ตามที่อยู่ที่ได้สมัครกับทาง Google adsene ไว้ ดังนั้นให้ตรวจเช็คที่อยู่ของคุณให้ถูกต้อง ระยะเวลาในการจัดส่งอยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์

สิ่งที่ควรปรับปรุงในกรณีที่สมัคร Google Adseneไม่ผ่าน

สิ่งที่ควรปรับปรุงในกรณีที่สมัคร Google Adseneไม่ผ่านนะครับ ส่วนมากจะเจอกันและหลายคนก็เลิกไปเลย ครับยอมรับเลยครับว่า การอนุมัติบัญชี Google Adsene ให้ผ่านของทาง Google สำหรับมือใหม่เป็นเรื่องที่หินจริงๆครับ แต่อย่าเพิ่งหมอหวังครับ เราสามารถส่งใบสมัครใหม่ได้ หลายคนส่งสัย ต้องสมัคร เมล์ใหม่หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ครับ เราสามารถใช้เมล์เดิมได้เลย ส้งย้ำไปเรื่อยๆครับ แต่ต้องมีการแก้ไขเว็บหรือบล็อกของเราก่อนนะครับ โดยการอนุมัติบัญและการตรอจสองของทาง Google adsene ใช้หุ้นยนต์ในการตรวจสอบเว็บของเรา โดยจะยึดที่ความสำบูรณ์ของเนื้อหาเว็บเรา และเป็นไปตามขอตกลงของทาง Google Adsensกำหนดไว้ เราก็ลองๆไปอ่านดูก่อนนะครับ จะได้รู้ว่าเว็บเรามีจุดบกพร่องตรงไหนรึป่าวก่อนที่เราจะทำการ สมัคร Google adsene ซึ่งหากสมัครแล้วบัญชีของเราถูกยอเลิกหรือไม่อนุมัติก็ต้องทำการปรับปรุงและส่งใบสมัครไปอีกครับ โดยจุดหลังๆในกรณีที่สมัครแล้วไม่ผ่าน ที่เราต้องตรวจสอบ มีดังนี้


- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าเว็บของคุณมีข้อความเพียงพอ - เว็บไซต์ที่มีรูปภาพ วิดีโอ หรือภาพเคลื่อนไหว Flash เป็นหลักจะไม่ได้รับอนุมัติ- เนื้อหาของคุณควรประกอบด้วยประโยคและย่อหน้าที่สมบูรณ์ ไม่ควรมีเฉพาะบรรทัดแรกเท่านั้น
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณสร้างและเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบ ก่อนที่คุณจะสมัครเข้าร่วม AdSense - อย่าสมัครหากไซต์ของคุณกำลังอยู่ในช่วงเบต้า หรือ "อยู่ระหว่างการปรับปรุง" หรือมีเพียงเทมเพลตเว็บไซต์เท่านั้น
- วางโค้ดโฆษณาบนหน้าเว็บที่กำลังทำงานของเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าหลัก แต่หน้าทดสอบที่ว่างและมีเฉพาะโค้ดโฆษณา AdSense จะไม่ได้รับอนุมัติ
- มีระบบการนำทางที่ชัดเจนสำหรับผู้เข้าชมของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถค้นหาส่วนและหน้าเว็บทั้งหมดของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
หลังจากทำการตรวจสอบและแก้ไขแล้วก็ส่งใบสมัครไปอีกครับนะครับ สามารถทำได้เรื่อยๆจนกว่าจะผ่าน แก้ไปเรื่อยๆครับ จนกว่าจะผ่าน หลายคนเจอปัญหานี้และต้องเลิกไป ต้องใช้ความพยามยามหน่อยครับในขั้นตอนนี้ คิดเสียว่าถ้าทำได้กันง่ายๆแล้วนั้นคนคงทำกับทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ใช้ว่าใครจะทำกันก็ได้ เราต้องเป็นหนึ่งในคนที่แต่ต่างและทำได้ ครับ